ส.ส. มุสลิมว่า
https://www.facebook.com/photo?fbid=115097284420229&set=pcb.115100647753226
https://www.facebook.com/photo?fbid=271181741765279&set=pcb.271185441764909
ส.ส.มุสลิมภาคใต้
https://www.facebook.com/photo/?fbid=504099464406636&set=a.500758951407354
ฮินดูกับมุสลิมปะทะกันเรื่องฮิญาบ
https://www.facebook.com/watch?v=4562124897233160
https://www.facebook.com/photo?fbid=273260674890719&set=a.107986681418120
ผู้ดูแลมัสยิดท้องถิ่นแห่งหนึ่งอ้างว่าเขาพบเห็นชายรายดังกล่าวกำลังเผาหนังสือศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมอยู่ภายในมัสยิดในตอนเย็นวันเสาร์ (12ก.พ.) และเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นๆฟัง แล้วถึงค่อยไปแจ้งกับตำรวจ จากการเปิดเผยของโฆษกตำรวจท้องถิ่น
ในเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตคาเนวาล แคว้นปัญจาบ โฆษกเปิดเผยว่าตำรวจรุดไปยังจุดเกิดเหตุ และพบชายรายนี้ถูกล้อมโดยฝูงชนโกรธกริ้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งและผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 2 นายพยายามเข้าควบคุมตัวเขา แต่ฝูงม็อบเริ่มปาหินใส่เขา ซึ่งมันส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 2 นายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
มูจาวาร์ กุจจาร์ ผู้บัญชาการประจำสถานีตำรวจทูลัมบา เผยว่าเขารุดส่งกำลังเสริมไปที่ยังมัสยิด แต่กำลังเสริมไปไม่ทันเวลา ฝูงม็อบขว้างหาหินใส่ชายคนนี้เสียชีวิตแล้วและนำศพของเขาขึ้นไปแขวนบนต้นไม้
กุจจาร์ ระบุตัวตนเหยื่อได้แก่นายมัชทัก อาห์เมด วัย 41 ปี จากหมู่บ้านใกล้เคียง "ชายผู้มีชะตากรรมอันน่าเศร้านี้ มีสภาพจิตใจไม่เสถียรมานานกว่า 15 ปีแล้ว และจากข้อมูลของครอบครัวพบว่าบ่อยครั้งที่เขาหายไปจากบ้าน ขอทานเป็นเวลาหลายวันและกินทุกอย่างที่คุ้ยเขี่ยเจอ" ผู้บัญชาการสถานีตำรวจเผย พร้อมบอกต่อว่าได้ส่งมอบศพของเขาแก่ครอบครัวแล้ว
ไมอาน โมฮัมหมัด รัมซาน ผู้ดูแลมัสยิด เผยว่าเขาเห็นควันลอยออกมาจากภายในมัสยิด ซึ่งอยู่ติดกับบ้านของเขา จึงรุดเข้าไปดู และพบพระคัมภีร์อัลกุรอ่านถูกเผาและเห็นชายคนหนึ่งกำลังเผาอีกเล่ม และในระหว่างที่เขาตะโกนให้ชายคนดังกล่าวหยุดนั้น พวกชาวบ้านก็เริ่มมาที่มัสยิดพอดี เพื่อประกอบพิธีละหมาดในตอนเย็น
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงหมู่บ้านก่อนที่พวกชาวบ้านจะลงมือปาหิน พร้อมกับควบคุมตัวชายรายนี้ แต่ฝูงม็อบชิงตัวเขาไปจากตำรวจ และทำร้ายเจ้าหน้าที่ระหว่างที่พยายามช่วยเหลือเขา
ต่อมาตำรวจกำลังเสริมเดินทางมาถึง และได้ทำการตรวจค้นสถานที่เกิดเหตุ แต่สุดท้ายก็ได้เพียงศพของชายคนดังกล่าวกลับไป
กุจจาร์ เปิดเผยว่าสืบสวนกำลังตรวจสอบวิดีโอต่างๆเท่าที่จะหาได้ ในความพยายามระบุตัวตนพวกผู้ก่อเหตุ พร้อมบอกว่าจนถึงตอนนี้ตำรวจได้ควบคุมตัวชายราวๆ 80 คนที่พักอาศัยอยู่รอบๆมัสยิด แต่เชื่อว่ามีผูุ้ต้อสงสัยมากถึง 300 คนที่ร่วมลงมือ
นายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน แสดงความเจ็บปวดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบอกว่าเขากำลังขอรายงานจากมุขมนตรีแห่งแคว้นปัญจาบ ในประเด็นเกี่ยวกับแนวทางจัดการกับคดีนี้ของตำรวจ ซึ่งเขาระบุว่า "ล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่" นอกจากนี้เขายังขอรายงานจากผู้บัญชาการตำรวจปัญจาบเกี่ยวกับมาตรการที่จะดำเนินการกับพวกผู้ก่อเหตุรุมประชาทัณฑ์ครั้งนี้
https://www.facebook.com/mgr.aroundtheworld/photos/a.762276233833524/5038507746210330/
ฯลฯ ความเชื่อว่าหญิงสองคนเท่ากับชายคนนึงนั้น ถูกส่งต่อมาและได้รับการบรรจุใน พรบ.ว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ. 2489 หรือถูกเรียกว่า "กฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดก" อีกด้วย โดยคดีความเหล่านี้จะถูกตัดสินโดยใช้ดะโต๊ะยุติธรรมเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดในคดีนั้นๆ ซึ่งบรรจุข้อความข้อ 8.3 ได้รับส่วนเหลือในกรณีที่เจ้ามรดกมีบุตรชาย (คือพี่ชายหรือน้องชายของบุตรสาว) จะคนเดียวหรือหลายคนก็ตามร่วมรับมรดกด้วย โดยให้ **ชายสองส่วน หญิงหนึ่งส่วน** (2:1) เป็นการยืนยันความเชื่อที่ชัดเจนของอิสลามที่ว่า "ผู้หญิงอิสลามมีค่าเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของผู้ชาย" จนถึงปัจจุบัน
https://www.facebook.com/CriticalQuranStudies/photos/a.3721601121190083/4966124223404427/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น