วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

หน้าที่ผู้หญิง






https://www.facebook.com/photo/?fbid=139844252067979&set=gm.1116379145618554

 

1-4 หัวข้อข้างบนประวัติความเป็นมาของอิสลามกับการสู้รบของนบีมูฮำมัด

1-7 หัวข้อข้างล่างประวัติความเป็นมาของนบี-อิสลาม คัดเอาเนื้อ  

อ่านแล้วก็เห็นแนวคิดเห็นคติอิสลาม-มุสลิม  เทียบสุภาษิตโบราณ ดูวัวให้ดูหางดูนางให้ดูแม่ ถ้าจะดูให้แน่ต้องดูถึงยายว่าซั่น   เพราะผู้ที่ยอมรับนับถือศาสดาใดเป็นไอดอล  วิถีชีวิตจิตใจก็มีความโน้มน้อมไปทางศาสดา คือ  อยากเอาอย่างอยากเป็นอย่างนั้น  พูดเป็นกลางๆก็เหมือนคนพุทธซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นไอดอลเป็นศาสดา เราก็อยากจะเป็นเช่นนั้นบ้าง  นี่เรื่องธรรมดา  เพราะฉะนั้น จึงว่า อย่ารู้แต่ของเรา  ต้องรู้เขาบ้าง เพราะเป็นปัญหาใกล้ตัวแล้วในปัจจุบัน         


มีตัวอย่างให้ดู


หลังจากออกจากมหาลัยสงฆ์ ถึงเวลาแล้วที่จะออกเดินทางตามที่ตั่งใจไว้ และจะไม่กลับมาอีกแล้ว โดยเริ่มจากกลับไปที่บ้านเกิด เพื่อสร้างบ้านให้พ่อก่อน และเพื่อทดสอบตัวเอง เพราะถ้าผ่านที่บ้านมาได้ก็สามารถไปอยู่ทุกหนแห่งได้สบาย และก็บังเอิญพระที่มาจำพรรษา ในถ้ำราชคฤห์ ออกพรรษาก็ย้ายออกพอดีเลยอยู่คนเดียว ถือโอกาสทดสอบตัวเองเรื่องความกลัว อยู่ภาวนาในถ้ำเป็นเวลาเดือนกว่า เรื่องการปฏิบัติ ความกลัวก็ไม่มีปัญหาเพราะอยู่ไปๆ ก็ได้ผีนี้แหละเป็นเพื่อนทำให้หายกลัวไปเลย แต่มีปัญหาเรื่องอาหารการฉัน ตอนเช้าไปบิณฑบาตใส่แต่ทางบ้านกับบ้านญาติอีกสองหลัง บ้านอื่นไม่ใส่ และที่บ้านใส่ก็เพราะบอกให้ใส่ทุกๆวัน จะได้กับข้าวมาสามถุงก็ฉันอยู่แค่นี้อยู่ไปๆรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเรื่องอาหารการฉัน เพราะเหมือนไปบังคับให้เขามาใส่บาตร อยู่ได้เดือนกว่าก็เลยเดินทางไป ดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่

ตอนอยู่ดอยอ่างขางได้เจอเหตุการณ์หนึ่งทำให้ตกใจมาก คือ ถูกคนอิสลามทำร้าย

เรื่องมีอยู่ว่า มีพระจะไปซื้อของฝากญาติทางบ้าน ก็ชวนเราไปเป็นเพื่อน ตรงด้านหน้าสถานีเกษตรหลวง บังเอิญร้านที่ซื้อเป็นร้านอิสลาม เราก็ยืนอยู่หน้าร้านรอพระเพื่อน ปรากฎว่า มีคนอยู่ชั้นบนโยนกระสอบลงมาโดนเราเต็มๆ แต่ดีข้างในไม่ใช่ของแข็ง ก็เลยไม่เป็นไรมาก ด้วยความตกใจ ก็เลยรีบเดินกลับ คนรอบๆ เขาก็เห็นนะ แต่ไม่มีใครกล้าว่าอะไร

อยู่ดอยอ่างขางหนึ่งเดือน ก็เลยเดินทางไปดอยปุย มาอยู่ดอยปุย ได้เจอเอกสารเล่มหนึ่ง จริงๆแล้วก็เคยอ่านนานแล้วเป็นเอกสารที่หลุดออกมาเกี่ยวกับแผนการยึดครองประเทศไทยของศาสนาอิสลาม

ในเอกสารเขียนถึงดอยอ่างขาง และดอยปุยแล้วก็เป็นอย่างที่เขียนไว้จริงๆ คือ เขาสำเร็จแล้ว คือตรงไหนเป็นแหละท่องเที่ยว ย่านเศรษฐกิจ การค้า เขาจะส่งคนของเขาลงไปให้แต่งงานกับคนในพื้นที่แล้วค้าขาย เพื่อเงินจะได้อยู่ในกลุ่มคนของเขา

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าร้านขายของฝากในสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จะมีร้านของคนอิสลามเกือบครึ่งหนึ่ง แล้วมีร้านอาหารใหญ่โต ตั้งอยู่หน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง หรืออย่างดอยปุยร้านขายของฝากในหมู่บ้านม้งรวมถึงหน้าตำหนักราชนิเวศภูพิงค์ ก็เหมือนกัน

จากที่สังเกตุ ตอนเช้าไปบิณฑบาต ร้านที่เป็นคนอิสลามเขาจะเปิดร้านก่อนคนพุทธคือเปิดแต่เช้ามืด พอตอนเช้า พระไปบิณฑบาตนักท่องเที่ยวก็จะไปซื้อของจากร้านอิสลามมาใส่บาตร อย่างหน้าสถานีเกษตรหลวงอ่างขางกับหน้าตำหนักราชนิเวศภูพิงค์ประจำเลยจะได้แต่อาหารอิสลาม

ก็คงไม่แปลกที่มีข่าวว่าจะมีการสร้างโรงงานผลิตอาหารฮาลาลที่ดอยหล่อ และช่วงที่อยู่ดอยปุยก็เจออีกเหตุการณ์หนึ่ง คือ ตอนเช้าเราจะลงไปบิณฑบาตในหมู่บ้านม้ง มียายคนหนึ่งแกจะพาหลานสองคนมารอใส่บาตรตรงจุดจำหน่ายตั๋วเพื่อเข้าชมดอกฝิ่นเป็นประจำทุกๆวันไม่เคยขาด ดูแล้วก็คงจะมีฐานะอยากจน แต่มีศรัทธามาใส่บาตรทุกวัน เรายังรู้สึกเปลื้มเลย

แต่แล้วก็มีอยู่วันหนึ่ง ในขณะกำลังเดินบิณฑบาต ปรากฎว่ามีคนอิสลามประมาณร้อยกว่าคนเหมารถแดงขึ้นมาถึงแล้วก็แบ่งกันแยกย้ายเดินสำรวจดูหมู่บ้าน จะว่ามาเที่ยวทำไมมาแต่เข้ามืดร้านค้ายังไม่เปิดเลย พอเดินบิณฑบาตมาถึงยายที่ว่า ปรากฎว่ามีคนอิสลามล้อมอยู่ประมาณ 10 คน พอเห็นพระเดินมาก็เปิดทางให้ยายใส่บาตร พอใส่เสร็จก็มาล้อมยายอีก และจากวันนั้นยายคนนี้ไม่มาใส่บาตรอีกเลย ก็แปลกใจเหมือนกัน

จริงๆแล้วก็เจออะไรมาเยอะ แต่ไม่อยากเอามาเล่าก็เฉพาะบางส่วน จากเหตุการที่พบเจอกับความคิดว่าออกจากมหาลัยสงฆ์แล้วจะไม่กลับมาอีก เริ่มรู้สึกไม่มั่นใจขึ้น ขนาดหนีจากเมืองมาอยู่ตามป่าเขา กลับมาต้องมาเจออะไรแบบนี้ ยอมรับว่ารู้สึกกลัวขึ้นมา ถ้ายังมาอยู่แบบนี้ต่อไปในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร อย่างที่ว่าพระก็เหมือนกับเต่าไม่มีกระดองใครสาดอะไรมาก็โดนเต็มๆ ก็เลยตัดสินใจกลับจำพรรษาที่วัดในสังกัดเพื่อมาตั้งหลักใหม่


ที่เคยเล่าว่า มีคนอิสลามมาสำรวจดูหมู่บ้านม้งตอนพระบิณฑบาต จริงๆแล้วมีข้อมูล คือ เขามาสำรวจดูว่าบ้านไหนใส่บาตรเขาจะยื่นข้อเสนอเพื่อให้เลิกใส่เพื่อให้พระอยู่ไม่ได้ เช่นกับยายที่พาหลานมาใส่บาตร เขาเห็นว่ามีเด็กด้วยกลัวเด็กจะซึมซับ เห็นแล้วสงสารยาย บางวันแกยังอุตส่าห์มาแอบดักใส่บาตร

ชาวเขามีประพณีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ทุกคนที่เกิดก็ซึมซับในประเพณีวัฒนธรรม โดยเฉพาะด้านความเชื่อ ถึงบางคนนับถือพุทธก็จริง แต่ยังขาดความเข้าใจประเพณีพุทธ เพราะไม่ได้ปลูกฝังมาแต่บรรพบุรุษ ซึ่ง
ต่างจากชาวคริสต์ในสกลนคร ถึงจะนับถือคริสก็จริง แต่พวกเขานับถือพุทธมาก่อน คุ้นเคยกับประเพณีพุทธมาตั้งแต่บรรพบุรุษ แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นคริสต์ภายหลัง เมื่อเปลี่ยนมานับถือคริสต์ก็จริง สิ่งที่ถูกฝัง สิ่งที่คุ้นเคยก็ยังอยู่ จึงไม่แปลกที่พวกเขายังมาใส่บาตร หรือบางคนที่ใส่บาตรมีญาติพี่น้องที่ยังไม่เปลี่ยนเป็นคริสต์มาบวชอยู่ก็มี ที่มหาลัยสงฆ์ก็มีพระเพื่อนที่มาจากสกลนคร ก็เล่าให้ฟัง เขามาบวช แต่ญาติทางบ้านเปลี่ยนไปนับถือศริสต์แต่ก็ยังใส่บาตรอยู่ และที่สำคัญ คือ ชาวคริสต์ในสกลนครนั้นถูกซื้อตัวไป เรื่องการปฏิบัติจึงไม่ค่อยเคร่งเท่าไหร่ แต่อย่าลืมว่าอิสลามไม่เหมือนคริสต์นะ คริสต์ยังเข้ากันได้ แต่อิสลามเขาไม่เอาใครนะ


ตัวอย่างอีก

นพ. แวมาฮาดี แวดาโอะ อดีต ส.ส.นราธิวาส ประกาศข่าวดีผ่านเฟซบุ๊ก
"ต้อนรับลูกชาย ลูกคนที่ 25 จากภรรยาคนที่ 3"
หมอแว ระบุว่า ใครที่ยังมีลูกน้อยให้รีบมี ใครที่ยังไม่แต่งงาน จงรีบแต่งงาน ลูก ๆ จะได้ช่วยกันขอดูอาร์ให้ท่าน พระผู้อภิบาลของเรา ขอพระองค์โปรดทรงทำให้เราทั้งสองเป็นผู้นอบน้อมต่อพระองค์ และโปรดทรงทำให้ลูกหลานของเราเป็นชนชาติที่นอบน้อมต่อพระองค์ด้วยเถิด




อิสลาม” เป็นคำภาษาอาหรับ แปลว่า การยอมจำนน การปฏิบัติตาม และการนอบน้อม เมื่อนำคำว่า “อิสลาม” มาเป็นชื่อของศาสนา จึงมีความหมายว่า เป็นศาสนาแห่งการยอมนอบน้อม จำนนต่อพระเจ้า คือ อัลลอฮ์




ผู้ที่ยอมรับศาสดามหาวีระเป็นไอดอล ก็แก้ผ้าตามมั่ง





https://www.youtube.com/watch?v=9mgJ97GKdS8



โองการกำราบเมีย"
โองการนี้ในคัมภีร์อัลกุรอ่าน ออกมาจัดการเมียนบีมูฯ หลังจากเมีย 2 คน (อาอิชะห์+ฮัฟเซาะห์) ไม่พอใจที่มูฮำหมัดเอาเมียทาสคนใหม่มานอนในบ้าน (หลังจากที่มีเมียเดิมเป็นโหลแล้ว) จึงร่วมกันแข็งข้อจนเขาต้องหนีเมียไปอยู่ถ้ำเป็นเดือน
โองการนี้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ "คำสอน" ในคัมภีร์ที่สาวกต้องท่องจำ และหลายคนนำมาใช้กำราบเมียตัวเองต่อ เมื่อต้องการเอาเมียเพิ่ม โดยเมียเดิมไม่ยินยอมพร้อมใจ
แต่ถ้าเมีย(คนที่เริ่มเก่า)ของมูฮำหมัดไม่โวย ก็คงไม่มี "โองการ[กำราบเมีย]" มาขู่ว่าจะให้เขาหย่าพวกเธอและจะหาเมียใหม่ที่หัวอ่อนกว่าพวกเธอ 2 คน

https://www.facebook.com/photo/?fbid=3251821021516434&set=a.869221086443118


ลงทะเบียนหญิงหม้ายมุสลิมะห์ปัตตานีพุ่งกว่าครึ่งพัน เด็กกำพร้า 3 จังหวัดกว่า 2 หมื่น



https://www.isranews.org/article/south-news/documentary/108482-singlemomsouth.html?fbclid=IwAR3bJsHY0a41bnlAOq2xyCG1F2h1e3taPUI84xhRvoTLY4njbzJAJAZryHI


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

งดใช้บริการ

  https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3724456 https://www.facebook.com/photo/?fbid=491527119790156&set=a.433526435590225 https:...