วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2565

ศรัทธาโดยไม่ถามเหตุผล

 

“แท้จริง บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา และปิดกั้นให้ห่างจากทางของอัลลอฮฺ แล้วพวกเขาตายลงทั้งๆที่พวกเขาเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาอยู่ อัลลอฮฺจะไม่ทรงอภัยโทษให้พวกเขาเลย”
คัมภีร์อัลกุรอาน 47:34



https://www.facebook.com/photo/?fbid=334799258502808&set=gm.331483432173365


ศรัทธา คือ ความเชื่อ ความซาบซึ้ง ไม่ใช่ความรู้ แต่อาจเป็นทางเชื่อมไปสู่ความรู้ได้ เพราะศรัทธามีลักษณะเป็นการยอมรับความรู้ของผู้อื่น ฝากความไว้วางใจในปัญญาของผู้อื่น ยอมพึ่ง และอาศัยความรู้ของผู้อื่นหรือแหล่งแห่งความรู้นั้นเป็นเครื่องชี้นำแก่ตน ถ้าผู้มีศรัทธารู้จักคิดรู้จักใช้ปัญญาของตนเป็นทุนประกอบไป ศรัทธา นั้น ก็สามารถนำไปสู่ความเจริญปัญญา และการรู้ความจริงได้ เฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อผู้อื่นนั้นหรือแหล่งความรู้นั้นมีความรู้แท้จริง และมีกัลยาณมิตรช่วยชี้่แนะให้รู้จักใช้ปัญญา แต่ถ้าเชื่ออย่างงมงายคือไม่รุู้จักคิด ไม่ใช้ปัญญาของตนเลย และผู้อื่นหรือแหล่งแห่งความรู้นั้นไม่มีความรู้จริง ทั้งไม่มีกัลยาณมิตรที่จะช่วยชี้แนะ หรือมีปาปมิตร ผลอาจกลับตรงข้าม นำไปสู่ความหลงผิด ห่างไกลจากความรู้ยิ่งขึ้น


ปัญญา (ปัญญา มักแปลกันว่า wisdom หรือ understanding) แปลกันว่า ความรอบรู้ เติมเข้าอีกว่า ความรู้ทั่ว ความรู้ชัด คือ รู้ทั่วถึงความจริง หรือรู้ตรงตามความเป็นจริง ท่านอธิบายขยายความกันออกไปต่างๆ เช่นว่า รู้เหตุรู้ผล รู้ดีรู้ชั่ว รู้ถูกรู้ผิด รู้ควรไม่ควร รู้คุณรู้โทษ รู้ประโยชน์มิใช่ประโยชน์ รู้เท่าทันสังขาร รู้องค์ประกอบ รู้เหตุปัจจัย รู้ที่ไปที่มา รู้ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งทั้งหลาย รู้ตามความเป็นจริง รู้ถ่องแท้ เข้าใจถ่องแท้ รู้เข้าใจสภาวะ รู้คิด รู้พินิจพิจารณา รู้วินิจฉัย รู้ที่จะจัดแจงจัดการ หรือดำเนินการอย่างไรๆ

แปลกันอย่างง่ายๆ พื้นๆ ปัญญา คือความเข้าใจ (หมายถึงเข้าใจถูก เข้าใจชัด หรือเข้าใจถ่องแท้) เป็นการมองทะลุสภาวะ หรือมองทะลุปัญหา ปัญญาช่วยเสริมสัญญาและวิญญาณ ช่วยขยายขอบเขตของวิญญาณให้กว้างขวางออกไปและลึกซึ้งยิ่งขึ้น ส่องทางให้สัญญามีสิ่งกำหนดหมายรวมเก็บได้มากขึ้น เพราะเมื่อเข้าใจเพียงใด ก็รับรู้และกำหนดหมายในวิสัยแห่งความเข้าใจเพียงนั้น เหมือนคิดโจทย์เลขคณิตข้อหนึ่ง เมื่อยังคิดไม่ออก ก็ไม่มีอะไรให้รับรู้และกำหนดหมายต่อไปได้ ต่อเมื่อเข้าใจ คิดแก้ปัญหาได้แล้ว ก็มีเรื่องให้รับรู้ และกำหนดหมายต่อไปอีก






















วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2565

อิสลามสังกัดกรมการปกครอง

 


    ไม่สังกัดอยู่กับกรมการศาสนา แต่อยู่ ก.มหาดไทย ซึ่งเป็นฝ่ายปกครอง  ผลจึงออกมาเช่นนี้ และอีกหลายๆเรื่องได้รับ รวมถึงการเงินสร้างมัดยิด

https://www.facebook.com/photo/?fbid=422290882986083&set=a.219458369936003

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/630351?fbclid=IwAR26jrNg_J0HFY2fS1j327ktTlcSUOzXZ5ds5wSpXjBz4SjKGPf7otohAVc



https://www.facebook.com/photo?fbid=139904058430193&set=pcb.139904075096858

ป.ป.ช. เปิดเซฟ 'อนุมัติ อาหมัด' พ้น ส.ว. อู้ฟู่ 393ล้าน เงินลงุทน-ที่ดินอื้อ

https://www.khaosod.co.th/politics/news_6839606




วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565

เม็ดเงินจากฮาลาลปีเท่าไหร่อยู่ที่ไหน ?

https://www.facebook.com/hashtag/%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AE%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B9%88 


https://www.facebook.com/halalandthaisociety/photos/pcb.141671838226152/141672624892740

#เงินฮาลาลได้ปีละเท่าไหร่ นำไปใช้อะไรบ้าง เมื่อสังคมตั้งคำถาม จึงไปรวมมาให้ดู!
หลังจาก ‘มนัญญา ไทยเศรษฐ์’ เตรียมผลักดัน จัดตั้งองค์การมหาชนฮาลาล ได้มีปฏิกิริยาอย่างกว้างขวาง ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รวมทั้งมีคำถามไปยังคณะกรรมการกลางฯ ถึงเงินฮาลาลว่า แต่ละปี มีจำนวนเท่าไหร่ และนำไปใช้อะไรบ้าง
จำนวนเงินที่ได้จากค่าธรรมเนียมการรับรองฮาลาล ไม่มีตัวเลขชัดเจนว่า แต่ละปีมีจำนวนเท่าไหร่ เพราะไม่ได้มีการรวบรวมและแจกแจงชัดเจน Mtoday จึงขอคำนวณจากกรอบระเบียบการขอการรับรอง ดังนี้
การขอการรับรองฮาลาล มีผู้รับผิดชอบ 2 ส่วน คือ คณะกรรมการฝ่ายกิจการฮาลาล ในจังหวัดที่มี คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ซึ่งมีจำนวน 40 จังหวัด (จังหวัดที่มีมัสยิด 3 แห่งขึ้นไป) ส่วนจังหวัดที่ไม่มีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เป็นความรับผิดชอบของคณะกรรมการฝ่าบกิจการฮาลาล คณะกรรมการกลางแห่งประเทศไทย กรณีที่คณะกรรมการฝ่ายฮาลาลฯ เดินทางจากกรุงเทพฯไปตรวจ จะคิดค่าเดินทางด้วยต่างหาก
ตามระเบียบ การขอฮาลาล มีค่าใช้จ่ายคือ
การตรวจสอบโรงงานมี 3 ระดับ
ขนาดเล็ก จำนวน 15,000 บาท
ขนาดกลาง จำนวน 25,000 บาท
ขนาดใหญ่ จำนวน 35,000 บาท
มีค่าอบรมพนักงาน
มีที่ปรึกษารายเดือน กรณีที่โรงงานไม่มีซุปเปอร์ไวเซอร์ที่เป็นมุสลิม เดือนละ 1,000 บาท ปีละ 12,000 บาท ใครเป็นพวกกรรมการฮาลาลฯ ก็จะได้แต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา ใครไม่เป็นก็อด
การตรวจรับรองฮาลาล ไม่มีการรวบรวมไว้ชัดเจน เพราะแต่ละจังหวัดดำเนินการ แต่ทั่วประเทศประมาณว่า มีจำนวน 6,000-8,000 โรงงาน รวมทั้งไม่ได้แยกแยกไว้ชัดเจนว่า ขนาดโรงงานมีขนาดไหนบ้าง ถ้าประมาณการเฉลี่ย โรงงานขนาดกลาง จำนวน 6,000-8,000 โรงงาน รายได้ประมาณ 150 ล้านบาท
จำนวน 150-180 ล้านบาท กระจายอยู่ในทุกจังหวัด โดยจังหวัดที่มีการตรวจรับรองมากที่สุด มีสมุทรปราการ ปทุมธานี และกรุงเทพฯ ประมาณ 400-500 โรงงานต่อจังหวัด
เฉพาะ 3 จังหวัดนี้มีรายได้ มากกว่า 10 ล้านบาทต่อจังหวัด
นอกจากค่าธรรมเนียมตรวจโรงงานแล้ว ยังมีค่าเครื่องหมายฮาลาลขนมเปียกปูน กรณีที่โรงงานขอใช้ตราบนผลิตภัณฑ์ จะคิดค่าธรรมเนียม 500 บาท/1 ผลิตภัณฑ์ หากโรงงานใด ออกผลิตภัณฑ์ 100 ผลิตภัณฑ์ ก็จะต้องเสีย 50,000 บาท เงินจำนวนนี้ เข้าสู่คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
ตามข้อมูลปัจจุบัน มีการขอตราฮาลาล จำนวน 150,000 ผลิตภัณฑ์ คิดเป็นค่าธรรมเนียม ประมาณ 75 ล้านบาท อยู่ในบัญชีของคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังมีการเรียกเก็บเงินจากการละเมิดการใช้เครื่องหมายฮาลาลขนมเปียกปูน ซึ่งไม่มีตัวเลขชัดเจน แต่เคยมีการตรวจสอบบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ใช้ตราฮาลาล จำนวน 20 ล้านบาท หรือร้านเล็กร้านใหญ่ ที่หน้าร้านนำตราฮาลาลขนมเปียกปูนมาใช้ หากฝ่ายตรวจการของคณะกรรมการฯเห็น ก็จะถูกปรับ ตามจำนวนที่แล้วแต่การพิจารณา บางรายเจรจาแล้ว ไม่ต้องเสียเงินก็มี
ถ้าไม่จ่ายกรณี เป็นผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในซุปเปอร์มาร์เก็ต ก็จะถูกสั่งให้นำลงจากชั้นวาง ส่วนใหญ่ไม่ต้องการมีปัญหาก็ยอมจ่าย เงินส่วนนี้ ไม่แน่ว่า เข้าบัญชีที่เปิดกัน 3 คนหรือไม่ และไม่ชัดเจนว่า แต่ละปีมีจำนวนเข้ามาเท่าไหร่
จุดนี้ จะมีปัญหามาก เพราะเอกชนบางราย ยื่นขอรับรองไม่ทัน หรือล่าช้า แต่สินค้าจากล็อตที่ขอรับรองยังวางบนชั้นวาง ก็ถูกตรวจสอบเช่นกัน บางรายมีการฟ้องร้องและคณะกรรมการกลางฯ แพ้ก็มี
อย่างไรก็ตาม แม้การคิดค่าธรรมเนียม จะกำหนดระเบียบไว้ แต่ไม่มีบทลงโทษที่ชัดจน ทำให้บางกรณีมีการเรียกเก็บจำนวนมากกว่าที่กำหนดก็ไม่มีการดำเนินการอะไร ทำให้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานรัฐ ทั้งถึงนายกรัฐมนตรี และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ จนเป็นที่มาของข้อเสนอให้จัดตั้งเป็นองค์การมหาชนฮาลาลขึ้นมานั่นแหละ
เงินฮาลาลนำใช้อะไร
เป็นที่ทราบกันดี คณะกรรมการอิสลามฯ ไม่มีได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ได้รับเงินประจำตำแหน่ง 1,200 บาทต่อเดือน เงินจำนวนนี้ ถูกนำไปใช้เป็น
ค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมการกลางฯ คนละประมาณ 20,000 บาท/เดือน ค่าเดินทาง ค่าที่พัก
ค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ
ค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ตัวเลขไม่ชัดเจน
ค่าใช้จ่ายสำนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ เงินเดือนเจ้าหน้าที่
จ่ายเป็นสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือสังคม กรณีน้ำท่วม ไฟไหม้ เป็นต้น
หมายความว่า เงินค่าธรรมเนียมจากการตรวจรับรองฮาลาล ใช้หล่อเลี้ยงคณะกรรมการกลางอิสลามฯทั้งหมด ยกเว้น จุฬาราชมนตรี ที่มีเงินประจำตำแหน่งจากกระทรวงวัฒนธรรม
จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมเมื่อมีการเสนอจัดตั้งองค์การมหาชนฮาลาล จึงมีการตั้งคำถามจากองค์กรบริหาร เพราะเท่ากับไปตัดแขนขาของคณะกรรมการฯทั้งหมด
‘ว่าแต่คณะกรรมการอิสลามฯ มีประโยชน์อะไรต่อสังคมมุสลิมบ้าง’ บางคนก็ตั้งคำถามต่อท้าย



งดใช้บริการ

  https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3724456 https://www.facebook.com/photo/?fbid=491527119790156&set=a.433526435590225 https:...