วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2564

ล้อเล่นกับอิสลามตายหยังเขียด



ใครที่ล้อเล่นกับอิสลามไม่ตายก็ติดคุก ยังอยากหายใจ  ก็ต้องหนีไปอยู่ประเทศเสรี



 



ลาร์ส วิล์คส (Lars Vilks) นักวาดการ์ตูนชาวสวีเดนซึ่งมีชื่อเสียงจากการวาดภาพล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัดของชาวมุสลิม เสียชีวิตแล้วเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) จากอุบัติเหตุทางรถยนต์

ฯลฯ

วิลส์ค ต้องใช้ชีวิตอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ ภายใต้การดูแลของตำรวจมาตั้งแต่ปี 2007 หลังจากที่เขาเขียนภาพการ์ตูนศาสดามูฮัมหมัดมีร่างกายเป็นสุนัข จนสร้างความเจ็บแค้นใจต่อชาวมุสลิมทั่วโลก

กลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์เคยประกาศตั้งค่าหัวนักเขียนการ์ตูนรายนี้ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3.3 ล้านบาท

ภาพล้อเลียนของ วิลส์ค ยังจุดชนวนข้อพิพาททางการทูต จนทำให้นายกรัฐมนตรี เฟรดริก เรนเฟลด์ท ผู้นำสวีเดนในขณะนั้น ต้องตระเวนพูดคุยกับบรรดาทูตของชาติมุสลิมเพื่อบรรเทาความตึงเครียด

ในปี 2015 วิลค์ส รอดชีวิตจากการถูกกราดยิงระหว่างเข้าร่วมงานเสวนาว่าด้วยเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่กรุงโคเปนเฮเกน ทว่าผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเดนมาร์กคนหนึ่งเสียชีวิต

https://www.facebook.com/mgr.aroundtheworld/photos/a.762276233833524/4580863695308073/

แต่ล้อกับศาสนาอื่นๆไม่เป็นไร












ภาพนี้ชาวคริสต์มองว่า คนที่ถูกตอกตรึงกับไม้เช่นนั้น ต้องเจ็บปวดทรมาน

https://www.facebook.com/photo/?fbid=403764201385537&set=pcb.1529744244070035

เทียบกันกับภาพนี้สื่ออะไรได้บ้าง

แบบนี้ คนใจไม่ถึงที่ไหนจะกล้าไปต่อแยด้วย


ตร.ปารีสยิงสกัดชาย “ชักมีดขู่” ตะโกนหนุนไอเอส-สรรเสริญพระเจ้า



https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1816698465197802&set=p.1816698465197802&type=3


เยเมน: นางแบบสาวถูกตั้งข้อหา 'ละเมิดระเบียบการแต่งกายของอิสลาม' ถูกจำคุกเป็นเวลาห้าปี 



สั่งจำคุกสาวชาวพุทธ เป็นเวลากว่า 18 เดือน หลังจากที่เธอออกมาร้องเรียนให้สุเหร่าใกล้บ้านของเธอ เบาเสียง “อาซาน” หรือเสียงเรียกละหมาด


อะษาน (อาหรับ: أَذَان‎, ออกเสียง: [ʔaˈðaːn]) บางครั้งเรียกตามภาษาตุรกีว่า เอซาน (ตุรกี: ezan) เป็นการเรียกละหมาดในศาสนาอิสลามที่กล่าวโดยมุอัซซินในแต่ละวัน รากศัพท์ของคำนี้คือ อะษินะ (أَذِنَ) แปลว่า "ฟัง, ได้ยิน, รับทราบ" ส่วนอีกคำที่แตกออกมาคือ อุษุน (أُذُن) แปลว่า "หู"

การอะษานจะกล่าว ตักบีร (อัลลอฮ์ ผู้ทรงเกรียงไกร) ด้วยเสียงอันดัง ตามมาด้วย ชะฮาดะฮ์ (ไม่มีพระเจ้าอื่นใด นอกจาก อัลลอฮ์ มุฮัมมัดเป็นศาสนทูตของ อัลลอฮ์)


เดือด! ม็อบปากีฯบุกล้อมสถานีตำรวจก่อนจุดไฟเผาวอด รวมรถไม่ต่ำกว่า 30 คันเรียกร้องให้ "ส่งตัว" ชายเผาคัมภีร์อัลกุรอาน







กลุ่มผู้ก่อเหตุโกรธแค้นที่ไปดึงโปสเตอร์ข้อความอัลกุรอานทิ้ง
คนงานชาวปากีสถานจับผู้จัดการโรงงานชาวศรีลังกามาซ้อมทรมาน ก่อนจุดไฟเผาร่างทิ้งอย่างโหดเหี้ยม เนื่องจากโกรธแค้นที่ “ดูหมิ่นศาสนา”








หนุ่มอินเดียถูกรุมกระทืบดับกลางวิหาร หลังลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศาสนา

ชาวอินเดียถูกรุมตีจนตาย ภายในวิหารทองคำ หนึ่งในศาสนสถานศักดิ์สิทธ์ที่สุดของชาวชาวซิกข์ ในเมือง อัมริตสาร์ ทางตอนเหนือของอินเดีย หลังพยายามกระทำลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในระหว่างประกอบพิธีสวดมนต์ประจำวัน เมื่อช่วงเย็นของวันเสาร์ (20 ธ.ค.) ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า ชายคนดังกล่าว ได้กระโดดข้ามลูกกรง เข้ามาภายในพื้นที่ประกอบพิธี และพยายามที่หยิบดาบ ที่วางอยู่ใกล้ๆ คัมภีร์ คุรุครันถสาหิพ ซึ่งเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวซิกข์ สร้างความตกใจให้กับผู้คนที่อยู่ในพิธี และพากันช่วยกันจับและรุมตีชายคนดังกล่าว จนเสียชีวิตภายในวิหาร

ตำรวจอินเดีย เผยกับสถานีโทรทัศน์ นิว เดลี ว่า ผู้ชายได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากถูกฝูงชนทุบตีอย่างรุนแรง แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด

การดูหมิ่นศาสนา เป็นประเด็นที่ส่งผลต่อความรู้สึกต่อชุมชนชาวซิกข์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีขึ้น ก่อนจะมีการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติ ในรัฐปัญจาบ ในปีหน้า


วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2564

คติอิสลามต่อเพศหญิง



ถ้ามองมุมที่พูด ก็แปลว่า อิสลามชายมีคติต่อเพศหญิงแค่หลุมบำบัดกามตัณหาเปลื้องความใคร่เท่านั้น

ฟังจากปากเขาเอง


(ถอดคำพูดเขามาหน่อย)

...เยอะสุด จริง นบีมูฮำหมัดภรรยาเยอะที่สุด ในบรรดาศาสดาโลกที่มีชื่อสำคัญๆ
พระพุทธเจ้ามีกี่คน ? มีคนเดียวแล้วก็ทิ้งกันไป นะครับ เพราะว่าตอนหลังออกบวช

พระเยซูตามความเชื่อของคริสเตียนมีไหม ? ไม่มี

แต่นบีมูฮำหมัดมีกี่คน ? มีกี่คน ? รวมทั้งหมดเลย มี ๑๒ คน เยอะไหม ? เยอะ พุทธก็ตำหนิ พระนี่เขียนหนังสือตำหนิ มีเมียเยอะมียังไง แบบไหน
นบีไม่ใช่ประเภทที่ไปเดินอยู่ตามสยาม เจอคนนี้แล้วก็ชี้ ชอบ ไม่ใช่ อิสลามอะไรไม่บาป ก็คือไม่บาป อย่าเอาทัศนคติแบบพุทธเข้ามามีอิทธิพลในวิถีของมุสลิม นะครับ อัลเลาะห์เป็นผู้สร้างมนุษย์มา อัลเลาะห์พอใจที่มนุษย์เสพในความงามของสิ่งที่พระองค์สร้าง นี่คือคติของอิสลาม อัลเลาะห์เป็นผู้สร้างมนุษย์มาให้มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม ... อัลเลาะห์พอใจที่มนุษย์ใช้สอยสิ่งที่พระองค์สร้าง และพอใจในสิ่งที่พระองค์สร้าง นี่เป้าหมายของพระอัลเลาะห์ ให้มันอยู่ในกรอบ อัลเลาะห์สร้างสัตว์มา อัลเลาะห์พอใจที่บ่าวของพระองค์ได้กินสัตว์ ได้กินอาหารที่พระองค์ประทานลงมา ไม่ใช่ว่าไปถือคติว่า ไม่ได้เรา.

(พูดด้วยความภาคภูมิใจมั่นอกมั่นใจในนบี แต่ว่าก็ว่าเถอะ ทำไมต้องชี้เป้าไปที่อัลลอฮฺ โยนเรื่องเซ็กซ์ไปให้พระเจ้า ทั้งๆที่ตัวเองเสพสมอยู่แท้ๆ ไม่เข้าใจ ก็รับสะตรงๆก็สิ้นเรื่องว่าเสพกามแล้วมีความสุข มันเป็นกามสุข สุขสัมผัสทางเนื้อทางหนัง แค่นี้จบ ยิ่งเป็นเด็กสาวด้วยแล้วสวรรค์ประทานให้อย่างว่า)

รับกันกับคำพูดผู้นำอิหร่าน "ผู้หญิงไม่ใช่คน เป็นเพียงสัตว์ป่าที่อัลเลาะห์สร้างขึ้นมาเท่านั้นเอง"



(เหน็บอาวุธที่เอว. นึกภาพก็พอเห็นว่า ยุคสมัยที่ลัทธิอิสลามเกิดในถิ่นทะเลทราย เป็นยุคที่คนในถิ่นนั้นแตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า แล้วทำไง ? ก็ต้องรบกัน ผู้ชายออกรบ รบกันก็เสียชีวิตด้วยกันทั้งสองฝ่าย ก็เหลือแต่ผู้หญิง ตอนนี้เองที่ผู้ชายต้องคุ้มครองเหล่าสตรี แล้วไง ก็ดีนี่ มีคนดูแล อ้าว ก็เอาทำเมียดิ เรื่องก็เท่านี้ ก็จึงเป็นประเพณีถูกถ่ายทอดสืบๆกันมาจากรุ่นสู่รุ่น)

อ่านคคห.ล่างเขาพูดได้ตรงประเด็น


ตามประวัติศาสตร์ทั่วโลก บรรดาจักรพรรดิราชา จะมีเมียเยอะเป็นเรื่องปกติ   แต่กับเด็ก 6 ขวบนิ ตามประวัติศาสตร์ปรากฏมีแค่คนเดียว แถมเป็นถึงศาสดาด้วย

การทำสงครามย่อมมีผู้แพ้ผู้ชนะ ผู้ชนะย่อมได้ทุกอย่าง หนึ่งในนั้นคือ "บรรดาเชลย" เชลยไล่ตั้งแต่ครอบครัวเจ้าเมืองยันไพร่บริวาร   เท่าที่จะต้อนไปได้   

อยากถามว่า "นอกจากศาสดาอาหรับแล้ว"  ในประวัติศาสตร์มีจักรพรรดิราชาองค์ไหนบ้าง "ทั่วโลก" ที่เอาเชลยเด็กอายุประมาณ 6-7 ขวบทำเมีย เด็ก 6-7 ขวบเมื่อราวๆ 30 ปีก่อน  ยังวิ่งแก้ผ้าเล่นกับเด็กผู้ชายอยู่เลย   

พูดง่ายๆก็คือ "ยังไม่รู้ปะสีปะสาอะไร" มันยังชอบผู้ชายไม่เป็นเลย  ไม่ต้องย้อนไปถึง 1000 ปีหรอก สมัยนี้ยังพอเข้าใจ เพราะกาลสมัยและยุคมันเปลี่ยนไป

ถ้าจิตคุณไม่ต่ำจริง   คุณจะไม่จับเด็ก 6 ขวบกินขนมแต่งเมีย แล้วรีบมีอะไรกันตอน 9 ขวบอย่างแน่นอน  (9 ขวบนี่  ตามบันทึกที่ศาสดาพูด แต่เอากันจริงๆตอนไหนบ้างก็ไม่รู้ เพราะแต่งกันแล้ว)  

พูดง่ายๆ ก็คือ ผู้ชายส่วนใหญ่ทั่วไปที่มี "จิตสำนึกสูง  มีความเป็นมนุษย์สูง" เขาทำกันไม่ลง อย่างน้อยๆ ปล่อยให้มัน 15-16 ก็พอเข้าใจอยู่น่ะ แต่นี่ล่อเด็กเลย

เด็กอายุ 6 ขวบ  (ไม่รู้ปะสีปะสาอะไร)  ตกอยู่ในฐานะเชลย พ่อแม่ล้มตาย สิ้นหนทางต่อรองใดๆ  "การแต่งงาน"    จึงตกอยู่ในฐานะ    "ผู้ถูกเลือก"   และต้องจำยอม   ต่อผู้ชายรุ่นราวคราวปู่ที่เพียบพร้อมไปด้วยอำนาจเงินทอง   

สุดท้าย   "กลายเป็นแบบอย่างค่านิยมหรือความถูกต้องในหมู่ผู้ชายมุสลิมที่มีเงินทอง"   ไปซะงั้น...

เชื่อว่าผู้หญิงมุสลิมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้    แต่เนื่องด้วยตัวบทคำสอน   ทำให้ผู้หญิงมุสลิมในโลกมุสลิม ไม่กล้าออกมาเรียกร้องสิทธิ์ใดๆ ให้กับผู้หญิงด้วยกันเองได้

คิดไปคิดมา มันคล้ายๆกับกรณีพ่อแม่ขายลูกสาวให้กับซ่องเมื่อหลายปีก่อนน่ะ คือ เด็กไม่รู้เรื่องอะไร แต่พ่อแม่เห็นแก่เงิน    เห็นแก่ความสบาย  เพราะความไม่รู้ปะสีปะสา   เด็กก็ต้องยอมไป  ขัดต่อพ่อแม่ไม่ได้

สมแล้วกับการตกเป็นทาสเป็นบ่าว  ยุคทาสค่อยๆ หมดไป  แต่ในสังคมมุสลิมยังคงดำรงอยู่ต่อไปตาม "คำภีร์


สาวกปัจจุบันแก้ให้ว่า

รู้ทั้งรู้ว่าศาสดาทิ้งลูกเมียทิ้งบ้านเมืองไป หาความสุขใส่ตน บอกว่าหาทางหลุดพ้น ไม่เห็นจะมีใครหลุดพ้นสักคนเลยนิห แถมคำสอนผิดต่อความเป็นธรรมมนุษย์อีก แล้วมาบอกตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่ออะไร
ส่วนศาสนาที่แต่งงานกับสาว 9 ขวบก็จริง แต่เด็ก 9 สมัยนั้นเหมือนสาว18-20 สมัยนี้หลักฐานทางประวัติศาสตร์ชัดเจน และหลังฐานไม่จริงคนสมัยนั้นคงไม่นับถือหรอกมั่ง ขนาดคนศาสนาอื่นสมัยนั้นที่เกลียดศาสดา ยังไม่ว่าอะไรกับการแต่งสาว 9 ขวบ เพราะ 9 ขวบสมัยนั้นเหมาะกับการแต่งงานแล้ว



เมื่อความเชื่อถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์ศาสนาไว้ในลัทธิศาสนาแล้ว สาวกก็ต้องปฏิบัติตามคัมภีร์ ทำนองความเชื่อเรื่องวรรณะของฮินดู เมื่อฝ่ายชายเป็นฝ่ายปกครองก็ต้องคงความเชื่อไว้เพื่อกดเพศหญิงไว้บำเรอกามชายชั่วกาลปาวสาน

ยิ่งเคร่งครัดมากเท่าใด ผู้ถูกปกครองก็ถูกกดขี่มากเท่านั้น



เมื่อมันเป็นความเชื่อเป็นประเพณีแล้วหญิงก็ยอมรับ เช่นประเพณีซึ่งถูกสอนต่อๆกันมา เช่น เรื่องผัวเดียว เมียสี่ห้าคน ไม่รับก็บาป พระเจ้าไม่โปรดปราน


บังคับขายเด็กหญิง


ทำไมต้องอิจฉาอิสลามที่สามารถมีเมีย 4 คนและสามารถเอาเด็ก 9 ขวบทำเมียด้วยคะ ทุกคนก็พึงประสงค์ในสิ่งที่ตัวเองปรารถนา แล้วจะอิจฉากันทำไม?








    ประเพณีไทย  เสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใคร  แต่ประเพณีมุสลิม   มีผัวก็แบ่งกันใช้  ผู้หญิงมุสลิมถูกสอนมาอย่างนั้นแต่อ้อนแต่ออก  เขาจึงรับได้  









อิสลามเกิดในช่วงสงคราม ช่วงที่ผู้ชายเป็นใหญ่


หมอแว ประกาศข่าวดี ได้ลูกชายคนที่ 25 จากภรรยาคนที่ 3 โซเชียลคอมเมนต์สนั่น วอนไม่ดราม่า

นพ. แวมาฮาดี แวดาโอะ อดีต ส.ส.นราธิวาส ประกาศข่าวดีผ่านเฟซบุ๊ก
"ต้อนรับลูกชาย ลูกคนที่ 25 จากภรรยาคนที่ 3"
หมอแวยังบอกอีกว่า "ใครที่ยังมีลูกน้อยให้รีบมี ใครที่ยังไม่แต่งงาน จงรีบแต่งงาน ลูก ๆ จะได้ช่วยกันขอดูอาร์ให้ท่าน"



ประมูลผู้หญิง


คติแง่มุมต่างๆต่อเพศหญิงของมุสลิม









"โองการกำราบเมีย"
โองการนี้ในคัมภีร์อัลกุรอ่าน ออกมาจัดการเมียนบีมูฯ หลังจากเมีย 2 คน (อาอิชะห์+ฮัฟเซาะห์) ไม่พอใจที่มูฮำหมัดเอาเมียทาสคนใหม่มานอนในบ้าน (หลังจากที่มีเมียเดิมเป็นโหลแล้ว) จึงร่วมกันแข็งข้อจนเขาต้องหนีเมียไปอยู่ถ้ำเป็นเดือน
โองการนี้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ "คำสอน" ในคัมภีร์ที่สาวกต้องท่องจำ และหลายคนนำมาใช้กำราบเมียตัวเองต่อ เมื่อต้องการเอาเมียเพิ่ม โดยเมียเดิมไม่ยินยอมพร้อมใจ
แต่ถ้าเมีย  (คนที่เริ่มเก่า)  ของมูฮำหมัดไม่โวย ก็คงไม่มี "โองการ[กำราบเมีย]" มาขู่ว่าจะให้เขาหย่าพวกเธอและจะหาเมียใหม่ที่หัวอ่อนกว่าพวกเธอ 2 คน


ญาติขอความเป็นธรรม สาวถูกแฟนต่างชาติโยนลงตึกดับที่โอมาน

https://www.facebook.com/onenews31/posts/5519866754768421




วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2564

คติอิสลามต่อหญิงต่อดนตรี

 

นักร้องหญิงชาวอัฟกันผู้ไม่ยอมถูกตาลีบันทำลายความฝันด้านดนตรี


ไอชา ข่าน บอกว่าต้องย้ายออกจากอัฟกานิสถาน "เพราะฉันเป็นผู้หญิงและเป็นนักร้อง" หลังจากกลุ่มตาลีบันเข้ายึดอำนาจ ไอชาจำต้องละทิ้งบ้านในกรุงคาบูล แล้วหนีออกจากประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ ยิ่งกว่านั้นเธอยังต้องละทิ้งความฝันที่ยังไม่ประสบความสำเร็จของตัวเองด้วย "ฉันไม่ได้ละทิ้งบ้านเกิดเพราะฉันเป็นหญิงสาวชาวมุสลิมที่ไม่ได้สวมฮิญาบ หรือไม่ได้ปกปิดร่างกายมิดชิด" เธออธิบายให้บีบีซีฟัง


ส่วนนี่ชอบฟังดนตรี



ทำลายเครื่องดีดสีตีเป่า



ทำลายชีวิต




ชีวิตสาวอัฟกันก่อนตาลีบันยึด ปท.แล้วปกครอง


ต่อไปก็เข้าโหมด





ฉันเป็นมุสลิมฉันสงบและฉันมีความสุข เพราะฉันเพิกเฉยต่อคำสอนส่วนใหญ่ของอิสลาม






ตาลีบันไม่สนเรื่องการเรียนของผู้หญิง เอารื่องความสัมพันธ์ก่อน

หวังได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ป้องกันอัฟกานิสถานเจอกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ส่วนการเรียนของเด็กผู้หญิง ตอนนี้ให้ถึงแค่ ป.6 พอ บอกว่าการปฏิรูปต้องใช้เวลา

รัฐมนตรีต่างประเทศอัฟกานิสถานได้วิงวอนต่อโลกสำหรับเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีเมื่อวันจันทร์ ( 11 ตุลาคม ) แต่หลีกเลี่ยงที่จะให้คำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่นเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กผู้หญิง แม้จะมีข้อเรียกร้องจากนานาชาติ ให้พวกเขาอนุญาตให้เด็กอัฟกันทุกคน ได้กลับไปเรียนหนังสือ

เกือบ 2 เดือนหลังจากที่อดีตรัฐบาลอัฟกานิสถาน ที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกล่มสลาย และกองกำลังตาลีบัน บุกเข้าไปในกรุงคาบูล รัฐบาลใหม่ของตาลีบัน ได้มุ่งผลักดันเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ เพื่อให้ช่วยป้องกันการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจจะเลวร้าย

แต่จนถึงตอนนี้ กลุ่มตาลีบันยังปฏิเสธที่จะอนุญาตให้เด็กผู้หญิงกลับไปเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องหลักของประชาคมระหว่างประเทศ หลังจากการตัดสินใจเมื่อเดือนที่แล้วว่าโรงเรียนที่สูงกว่าเกรด 6 จะกลับมาเปิดอีกครั้งสำหรับเด็กผู้ชายเท่านั้น

ในการไปพูดที่สถาบันบัณฑิตศึกษากรุงโดฮา ประเทศกาต้าร์ นายอามีร์ ข่าน มุตตากี รักษาการรัฐมนตรีต่างประเทศอัฟกานิสถานบอกว่ารัฐบาลอิสลามแห่งเอมิเรตส์ของตาลีบันกำลังขยับอย่างระมัดระวัง แต่การที่เพิ่งอยู่ในอำนาจได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ จึงไม่สามารถคาดหวังว่าจะมีการปฏิรูปเสร็จเรียบร้อย แบบที่ประชาคมระหว่างประเทศไม่สามารถดำเนินการได้ภายใน 20 ปี

คณะบริหารชุดใหม่อยู่ภายใต้การวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับแนวทางการศึกษาของเด็กผู้หญิง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในผลดีอย่างไม่น่าสงสัยในเรื่องดี ๆ ที่มีจำนวนจำกัด จากการที่ชาติตะวันตกเข้ามาปกครองอัฟกานิสถานเป็นเวลาสองทศวรรษ เลขาธิการใหญ่ อันโตนิอ กูแตร์เรส บอกว่าตาลีบันผิดสัญญาในการรับประกันเรื่องสิทธิสำหรับผู้หญิงและเด็กหญิง และไม่มีทางที่เศรษฐกิจจะสามารถแก้ไขได้หากผู้หญิงถูกห้ามทำงาน

มุตตากี ออกมาเรียกร้องอีกครั้งให้สหรัฐฯ ยกเลิกการปิดกั้นเงินสำรองของธนาคารกลางอัฟกันมากกว่า 9 พันล้านดอลลาร์ที่ถืออยู่นอกประเทศ แต่บอกว่ารัฐบาลมีรายได้จากภาษี ภาษีศุลกากร และการเกษตร หากเงินยังคงถูกอายัติ

เขาบอกว่ากองกำลังตอลิบานสามารถควบคุมประเทศได้อย่างสมบูรณ์ และสามารถควบคุมภัยคุกคามจากกลุ่มไอเอส ที่อ้างว่ามีการโจมตีลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงการระเบิดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่มัสยิดชีอะห์ในเมืองคุนดุซ ทางเหนือของประเทศ










จอร์แดน กลับกัน  ชายคลุมผม แต่ฝ่ายหญิงไม่คลุม






ทำไมฉันถึงออกจากอิสลาม? สาวมุสลิมจากสิงคโปร์หนีไปอยู่อเมริกา ออกจากอิสลามแล้วก็แฉออกมาให้โลกเห็นว่า
-เธอรู้สึกถูกกดขี่มากเกินไป
-ชาวมุสลิมทั่วไปรังเกียจคนที่ออกไปจากอิสลาม เมื่อออกไปแล้วก็กังวลใจว่าจะถูกทำร้าย
ชีวิตเธอบรรยายจากประสบการณ์ตรงในภาคปฏิบัติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชุมชนที่เธออยู่ไม่ได้ส่งเสริมเสรีภาพทางศาสนาแต่อย่างใด






หลังจากที่กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา จากการที่กลุ่มตอลิบานเข้ายึดกรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศอัฟกานิสถาน

และก่อตั้งรัฐบาลขึ้นมา ปกครองประเทศด้วยกฎหมายอิสลามอย่างเคร่งครัด

หนึ่งในผลงานสำคัญที่มักจะถูกพูดถึง คือในแง่ของความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศชายและเพศหญิง เช่นการสั่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงเรียนหนังสืออย่างเด็ดขาด เป็นต้น

แต่ล่าสุดก็เหมือนจะมีประเด็นขึ้นมา เมื่อสื่อต่างประเทศหลายสำนักรายงานตรงกันว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มตอลิบานหลายคน ส่งลูกสาวของตัวเองไปศึกษาในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ

ในขณะที่เด็กผู้หญิงหลายล้านคนในประเทศของตัวเอง ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ จากผลกระทบของการบังคับใช้กฎหมาย

สำนักข่าว AAN (Afghanistan Analysts Network) ระบุว่า ลูกสาวของรัฐมนตรีในกระทรวงหนึ่งของตอลิบาน และอดีตสมาชิกของสภาผู้นำตอลิบาน กำลังศึกษาอยู่ในคณะแพทย์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของกาตาร์

รัฐบาลตอลิบานสั่งห้ามไม่ให้เด็กผู้หญิงอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไป ซึ่งนับเป็น 2 ใน 3 ของประเทศ ไม่ให้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียน

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็ออกมาเปิดเผยว่ารัฐบาลกำลังวางแผนระบบการศึกษาที่เหมาะสมกับพลเมืองของตัวเองอยู่




Sohail Shaheen หัวหน้าสำนักงานการเมืองของกลุ่มตอลิบานในกาตาร์กล่าวว่าอัฟกานิสถานไม่สามารถเปรียบเทียบกับประเทศในยุโรปในการอภิปรายเรื่องสิทธิสตรีได้เนื่องจากอัฟกานิสถานเป็นประเทศอิสลาม
.
ด้าน ซาบิฮุลลอฮฺ มูจาฮิด โฆษกของเอมิเรตส์อิสลามแห่งอัฟกานิสถาน ได้ออกมาปฏิเสธรายงานของ #Amnesty International (เมื่อ 25 สิงหาคม)ระบุว่าข้อกล่าวหาของ #Amnesty ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอัฟกานิสถาน
.
“รายงาน #AmnestyInternational เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอัฟกานิสถานมีความอาฆาตแค้นและเต็มไปด้วยการเลือกปฏิบัติและการโฆษณาชวนเชื่อที่ว่างเปล่า
ทุกคนมีสิทธิของตนเองในอัฟกานิสถาน การบังคับใช้กฎหมายเป็นสิ่งจำเป็น ทุกคนได้รับสิทธิของตนเองภายใต้กฎหมาย(อิสลาม)และระเบียบข้อบังคับของรัฐอิสลาม” มูจาฮิด กล่าว
.
มูจาฮิด กล่าวต่อ สิทธิของผู้ชายและผู้หญิงในอัฟกานิสถาน #Afghanistan ได้รับการคุ้มครองอย่างดีมากกว่าที่เคยได้รับในช่วงสองทศวรรษ 20 ปีที่ผ่านมา



งดใช้บริการ

  https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_3724456 https://www.facebook.com/photo/?fbid=491527119790156&set=a.433526435590225 https:...