คำสั่ง “ฮุน มาเนต” ศักดิ์สิทธิ์มาก! วันเดียวกัมพูชาจับแก๊งมิจฉาชีพได้เกือบ 800 คน
ในวันที่ 16 ก.ค. 68 เพียงวันเดียว เจ้าหน้าที่กัมพูชาบุกทลายแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์หลายแห่งทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาได้เป็นจำนวนมาก จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทำไมไม่จับตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่พอมีคำสั่งลงมาปุ๊บกลับสามารถดำเนินการได้ทันที
ที่กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของประเทศ ฮุน สุริธี รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติการปราบปรามมิจฉาชีพออนไลน์ในพื้นที่ต่าง ๆ ของเมือง และจับกุมชาวต่างชาติได้ 100 คน
โดยจับชาวจีน - ไต้หวัน 75 ราย, ชาวจีน 24 ราย และชาวเวียดนาม 1 ราย ยึดของกลางเป็น โทรศัพท์มือถือ 469 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ 122 เครื่อง, แล็ปท็อป 5 เครื่อง, หนังสือเดินทาง (จีน-ไต้หวัน) 34 เล่ม, รถยนต์ 2 คัน และซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ไม่ได้ใช้งานอีกจำนวนมาก
โดยจับชาวจีน - ไต้หวัน 75 ราย, ชาวจีน 24 ราย และชาวเวียดนาม 1 ราย ยึดของกลางเป็น โทรศัพท์มือถือ 469 เครื่อง, คอมพิวเตอร์ 122 เครื่อง, แล็ปท็อป 5 เครื่อง, หนังสือเดินทาง (จีน-ไต้หวัน) 34 เล่ม, รถยนต์ 2 คัน และซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ไม่ได้ใช้งานอีกจำนวนมาก
ส่วนที่จังหวัดบันเตียเมียนเจย เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกตรวจค้นอาคาร 3 ชั้นบนถนนสแตนตังกุน ตรงข้ามถนนฝั่งตะวันตกของโบเรย์เดพาร์กซิตี ในหมู่บ้านบาลีเลย์ 2 เมืองปอยเปต
ในการปฏิบัติการนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมชาวอินโดนีเซียได้ทั้งหมด 271 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 45 คน ส่วนของกลางประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ 341 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 352 เครื่อง
ทางด้านจังหวัดกระแจะ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านเช่าแห่งหนึ่งในอำเภอสนูล ซึ่งถูกใช้เป็นฐานมิจฉาชีพออนไลน์ขนาดใหญ่ และควบคุมตัวชาวต่างชาติได้ 312 คน
ในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ พบชาวเวียดนาม ไทย บังกลาเทศ อินโดนีเซีย จีน และเมียนมา รวม 312 คน เป็นผู้หญิง 56 คน ตำรวจยังได้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์ 329 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 1,630 เครื่อง
ส่วนที่จังหวัดกำปงสปือ ตำรวจได้เข้าปราบปรามเว็บไซต์พนันและคาสิโนออนไลน์ผิดกฎหมายของชาวต่างชาติในหมู่บ้านเชรย์ตากวน ตำบลโรคาโก๊ะ อำเภอกงปิเสย
เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันตัวตนของผู้ต้องสงสัย แต่รายงานเบื้องต้นเป็นชาวต่างชาติ 63 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน โดยกำลังดำเนินการรวบรวมหลักฐาน ซึ่งมีทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ในการฉ้อโกงออนไลน์
ในการปฏิบัติการนี้ เจ้าหน้าที่จับกุมชาวอินโดนีเซียได้ทั้งหมด 271 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 45 คน ส่วนของกลางประกอบด้วยคอมพิวเตอร์ 341 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 352 เครื่อง
ทางด้านจังหวัดกระแจะ เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านเช่าแห่งหนึ่งในอำเภอสนูล ซึ่งถูกใช้เป็นฐานมิจฉาชีพออนไลน์ขนาดใหญ่ และควบคุมตัวชาวต่างชาติได้ 312 คน
ในการเข้าตรวจค้นครั้งนี้ พบชาวเวียดนาม ไทย บังกลาเทศ อินโดนีเซีย จีน และเมียนมา รวม 312 คน เป็นผู้หญิง 56 คน ตำรวจยังได้รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงคอมพิวเตอร์ 329 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 1,630 เครื่อง
ส่วนที่จังหวัดกำปงสปือ ตำรวจได้เข้าปราบปรามเว็บไซต์พนันและคาสิโนออนไลน์ผิดกฎหมายของชาวต่างชาติในหมู่บ้านเชรย์ตากวน ตำบลโรคาโก๊ะ อำเภอกงปิเสย
เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันตัวตนของผู้ต้องสงสัย แต่รายงานเบื้องต้นเป็นชาวต่างชาติ 63 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน โดยกำลังดำเนินการรวบรวมหลักฐาน ซึ่งมีทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ในการฉ้อโกงออนไลน์
มีรายงานว่าบ่อนออนไลน์แห่งนี้เปิดให้บริการมาหลายปีแล้ว แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดกล้าที่จะปราบปราม จนกระทั่งมีคำสั่งจาก ฮุน มาเนต
ยังมีที่จังหวัดโพธิสัตว์ เจ้าหน้าที่ได้เข้าปราบปรามศูนย์หลอกลวงทางออนไลน์และจับกุมชาวต่างชาติ 27 คน ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในอำเภอเวียลเวง โดยพบชาวจีน เวียดนาม และเมียนมารวม 27 คน รวมถึงผู้หญิง 9 คน
ที่จังหวัดโพธิสัตว์นี้ยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ นั่นคือกระทรวงยุติกรรมกัมพูชาได้สั่งพักงาน ครี เซฮา รองอัยการศาลจังหวัดโพธิสัตว์ เป็นการชั่วคราว เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มฉ้อโกงออนไลน์ จากพฤติการณ์ที่ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยคดีฉ้อโกงออนไลน์
การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อปูทางให้คณะตรวจสอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถสืบสวนกรณีการใช้อำนาจในทางมิชอบของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในการปล่อยตัวอาชญากรที่ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงผ่านเทคโนโลยีในจังหวัดโพธิสัตว์
รวมแล้วในวันที่ 16 ก.ค. เพียงวันเดียว กัมพูชาสามารถทลายแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ได้หลายแห่ง จับกุมผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติได้อย่างน้อย 773 ราย เรียกได้ว่าเป็นปฏิบัติการที่ดูมีประสิทธิภาพอย่างมาก
แต่คำถามหนึ่งที่ตามมาคือ แล้วที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กัมพูชาทำอะไรอยู่ ทำไมจึงต้องรอคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีถึงจะเปิดฉากปฏิบัติการทลายแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ ?
ยังมีที่จังหวัดโพธิสัตว์ เจ้าหน้าที่ได้เข้าปราบปรามศูนย์หลอกลวงทางออนไลน์และจับกุมชาวต่างชาติ 27 คน ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งในอำเภอเวียลเวง โดยพบชาวจีน เวียดนาม และเมียนมารวม 27 คน รวมถึงผู้หญิง 9 คน
ที่จังหวัดโพธิสัตว์นี้ยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ นั่นคือกระทรวงยุติกรรมกัมพูชาได้สั่งพักงาน ครี เซฮา รองอัยการศาลจังหวัดโพธิสัตว์ เป็นการชั่วคราว เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มฉ้อโกงออนไลน์ จากพฤติการณ์ที่ปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยคดีฉ้อโกงออนไลน์
การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อปูทางให้คณะตรวจสอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถสืบสวนกรณีการใช้อำนาจในทางมิชอบของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในการปล่อยตัวอาชญากรที่ถูกจับกุมในข้อหาฉ้อโกงผ่านเทคโนโลยีในจังหวัดโพธิสัตว์
รวมแล้วในวันที่ 16 ก.ค. เพียงวันเดียว กัมพูชาสามารถทลายแก๊งมิจฉาชีพออนไลน์ได้หลายแห่ง จับกุมผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติได้อย่างน้อย 773 ราย เรียกได้ว่าเป็นปฏิบัติการที่ดูมีประสิทธิภาพอย่างมาก
แต่คำถามหนึ่งที่ตามมาคือ แล้วที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กัมพูชาทำอะไรอยู่ ทำไมจึงต้องรอคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีถึงจะเปิดฉากปฏิบัติการทลายแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้ ?
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น